ตัวอย่างกล้องดูดาวแบบผสม

กล้องดูดาว Celestron Nexstar 5SE

2 2. ขนาดเลนส์วัตถุกล้องดูดาวขนาดเท่าไร

กล้องดูดาวแบบหักเหแสง Celestron LCM

ขนาดเลนส์วัตถุของกล้องดูดาว เป็นตัวบ่งบอกว่าภาพที่เราจะได้จากกล้องนั้นสว่างมากน้อยแค่ไหน ภาพละเอียดมากน้อยเท่าไร แน่นอนว่าถ้าขนาดเลนส์ของกล้องดูดาวใหญ่ เราก็จะได้ภาพดาวที่สว่างและสดใสมากขึ้นและตัวกล้องก็จะใหญ่ตามขนาดของเลนส์นี้ด้วย ขนาดเลนส์วัตถุสำหรับกล้องดูดาว เบื้องต้นนั้นควรจะมีขนาด 80 มิลลิเมตรเป็นต้นไป ถ้าขนาดเลนส์วัตถุเล็กกว่านั้นก็จะทำให้ดูดาวได้ไม่ถนัดนัก เพราะเลนส์รับแสงเล็กจะจำทำให้ภาพที่ได้มืดลง ด้วยหลักการกำลังขยาย 2 เท่า ความสว่างจะลดลง 4 เท่า จึงต้องชดเชยด้วยขนาดเลนส์ของกล้องดูดาวให้ใหญ่ขึ้น

3. ทางยาวโฟกัสกี่มิลลิเมตร

     ความยาวลำกล้องสำคัญกับกล้องดูดาวระบบหักเหแสง หากกำลังสนใจกล้องดูดาวระบบนี้ ควรดูความยาวลำกล้องด้วย เพราะกล้องดูดาวระบบนี้หากตัวลำกล้องยิ่งยาว ก็จะยิ่งโฟกัสได้แม่นยำมากเท่านั้น แต่กล้องดูดาวอีก 2 ระบบจะมีลำกล้องที่ไม่ยาวมากนักเพราะกล้องออกแบบมาให้แสงวิ่งวนอยู่ภายในทำให้กล้องดูดาวอีก 2 ระบบมีลักษณะอ้วนป้อม

4. 4. ลำกล้องสามารถต่อเข้ากับ Balows lens ได้หรือไม่

หากคุณต้องการดูดาวให้ได้ความสนุกขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง อุปกรณ์เสริมชื่อ Balows Lens เป็นอุปกรณ์ที่ขาดไม่ได้เลยทีเดียว



กล้องดูดาวควรใส่อุปกรณ์เสริมได้ เพื่อให้สามารถขยายดาวได้อีกระดับหนึ่ง

5.  5. ขาตั้งกล้องเป็นแบบไหนระบบอะไร

      ขาตั้งกล้อง เป็นอุปกรณ์สำหรับ กล้องดูดาวที่สำคัญมากๆ "เปรียบได้ว่าหากคุณมีกล้องดูดาว แต่ไม่มีขาตั้งกล้องนั้น ถือว่าคุณไม่มีกล้องดูดาว" ขาตั้งกล้องที่เหมาะกับกล้องดูดาว ต้องมีน้ำหนักมากเพื่อยึดกล้องดูดาวไม่ให้สั่น ขาตั้งกล้องดูดาวควรมาเฉพาะรุ่นนั้นๆ

ขาตั้งกล้องดูดาวนั้นมี 2 แบบง่ายๆ ก็คือ ขาตั้งกล้องแบบปกติ และ ขาตั้งกล้องแบบมีมอเตอร์ตามดาว ซึ่งราคาก็แตกต่างกันไป ไม่ควรหาซื้อเพิ่มหรือซื้อนอกรุ่น เพราะอาจใช้งานจริงไม่ได้ แต่สำหรับ กล้องส่องทางไกลแบบเทเลสโคปนั้นสามารถใช้กับขาตั้งกล้องได้เกือบทุกรุ่น

6.  6. ขาตั้งกล้องนั้นรองรับเหล็กถ่วงน้ำหนักหรือไม่

หากขาตั้งกล้องคุณมีลูกตุ้มแถมมาด้วยนั่นคือเป็นกล้องที่สามารถดูดาวได้อย่างดี คุณจะได้เห็นภาพดาวที่นิ่งและชัดมากๆ เพราะหากขาตั้งกล้องไม่รองรับน้ำหนัก เวลาเราปรับองศาของกล้อง ก็จะทำให้ดาวที่เราเล็งไว้หลุดออกจากการเล็งได้ เพราะขาตั้งกล้องไม่นิ่งนั่นเอง 

7.  7. ขาตั้งกล้องสูงเท่าไหร่

ขาตั้งกล้องของกล้องดูดาวควรจะมีความสูงน้อยที่สุด 120-130 เซนติเมตร เพราะหากเตี้ยกว่านั้นจะทำให้ดูดาวยากขึ้นไปอีก จะทำให้ดูได้ไม่ถนัด เพราะเราต้องก้มๆเงยๆดูดาว และที่สำคัญคือหากขาตั้งกล้องเตี้ยมากเกินไปก็จะไม่สามารถดูดาวที่ตั้งฉากอยู่บนหันเราได้

8.  8. มีเลนส์ตาสำหรับดูดาวให้หรือไม่ และมีขนาดเท่าไหร่บ้าง

เลนส์ตาของ กล้องดูดาวจะต้องมีให้ในกล่อง หากไม่มีเลนส์ตาก็จะไม่สามารถดูดาวได้เลย อีกทั้งเลนส์ตาจะเป็นตัวระบุกำลังขยายอีกด้วย



เลนส์ตาที่แถมควรมี 2 ขนาดเป็นอย่างน้อย เช่น เลนส์ตาขนาด 10 มิลลิเมตร และขนาด 20 มิลลิเมตร สำหรับ Sport Camera ทางร้านจะแถมเลนส์ให้ 3 ขนาด คือ 4 / 10 / 20 มม. และยังจะแถมอุปกรณ์ขยายดาว 3 เท่า และ 5 เท่า ให้ด้วยครับ เพื่อการดูดาวที่สนุกมากยิ่งขึ้น

   9. กล้องดูดาวรองรับอุปกรณ์เสริมกล้อง DSLR หรือไม่

ภาพแสดงการกล้องดูกาวกับกล้อง DSLR

เชื่อว่าคนชอบดูดาวนั้นก็ชอบถ่ายรูปดาวด้วยเช่นเดียวกัน หากกล้องดูดาวที่มีรองรับอุปกรณ์เสริมกล้อง DSLR ก็จะทำให้การถ่ายภาพดาวนั้นดีขึ้นมามากๆเลย กล้องดูดาวบางรุ่นไม่รองรับอุปกรณ์เสริม เราก็ต้องซื้ออุปกรณ์เสริมมาเพิ่ม  ทางร้าน Sport Camera เข้าใจดีกว่าอุปกรณ์เหล่านี้หายาก ทางร้านจึงจัดการแถมให้ด้วยครับ

10. สุดท้ายคือราคา งบประมาณของผู้ซื้อ