กล้องดูนก และกล้องดูดาวแตกต่างกันอย่างไร / จะดูขนาดของ กล้องส่องทางไกลอย่างไร และขนาดนั้นสำคัญกับกล้องส่องทางไกลอย่างไร UPDATE!! 2021

กำลังขยาย และขนาดเลนส์ของกล้องส่องทางไกลนั้น จำเป็นต้องสัมพันธ์กัน เพราะกำลังขยายมาก ภาพก็จะมืดลง ดังนั้นหากต้องการกำลังขยายที่มากและชัด ก็ต้องเพิ่มขนาดหน้าเลนส์เข้าไปชดเชย

จะดูขนาดของ กล้องส่องทางไกล อย่างไร และขนาดนั้นสำคัญกับกล้องส่องทางไกลอย่างไร

ขนาดของกล้องส่องทางไกลขึ้นอยู่กับขนาดเลนส์ของกล้องส่องทางไกลตัวนั้นๆ เช่น กล้องส่องทางไกลที่มีเลนส์ขนาด 32มม. ก็จะมีขนาดกล้องที่เล็กกว่ากล้องส่องทางไกลที่มีขนาดเลนส์ 50 มม. ขนาดเลนส์นั้นมีความสำคัญมากๆ เพราะว่าเลนส์นั้นทำหน้าที่รวมแสงที่มาจากวัตถุระยะไกล หากยิ่งไกลมากๆ ภาพที่ได้ก็จะสว่างน้อยลงไปด้วย และไม่สามารถดูรายละเอียดวัตถุระยะไกลได้ ปัญหานี้ถูกแก้โดยการให้สร้างเลนส์ที่ขนาดใหญ่ขึ้นเพื่อรับแสงได้ดีกว่าเลนส์ขนาดเล็ก

ดังนั้นการมีเลนส์ขนาดใหญ่ติดอยู่บนตัวกล้องของเรา ภาพที่ได้ก็จะสดใสและชัดละเอียดตามไปด้วย กล้องที่มีเลนส์ขนาดใหญ่ก็ยกตัวอย่างเช่น กล้องดูดาว, กล้องส่องทางไกลที่มีขนาดใหญ่ติดกับขาตั้งกล้อง และกล้องดูนก


รูปกล้องดูนก ที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ได้

กล้องดูนก และกล้องดูดาวแตกต่างกันอย่างไร คำถามนี้มักอยู่ในหัวของผู้ที่ต้องการซื้อกล้องดูนกดีๆไว้ซักตัว แต่ก็อยากนำกล้องดูนกไปดูดาวด้วยได้หรือไม่ มันแตกต่างกันอย่างไร

กล้องดูนกและกล้องดูดาวนั้นแตกต่างกันที่เลนส์ตากับระบบรวมแสงของกล้องแต่ละรุ่นครับ

แตกต่างกันที่เลนส์ตา คือ ปกติแล้วกล้องดูนกนั้นมักจะมาพร้อมกับเลนส์ตาขนาดใหญ่ 1 อัน เลนส์ตาของกล้องดูนกนี้จะเป็นเลนส์ตาแบบ กล้องเทเลสโคป ก็คือเลนส์ตานั้นสามารถหมุนได้นั่นเอง และการที่เลนส์ตาหมุนได้นั้นคือมันสามารถปรับซูมได้ที่เลนส์นั้นๆเลย เหมาะสำหรับดูนกอย่างยิ่งเพราะคุณสามารถซูมเข้าไปได้ทันทีที่จับภาพได้ และความชัดก็ยังคงดีอยู่เพราะกล้องดูนกส่วนใหญ่แล้วเลนส์ใหญ่เกินกว่า 42 มม. ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อมีเลนส์วัตถุขนาดใหญ่แล้วก็จะทำให้ภาพที่ได้คมชัดสว่าง แม้เป้าหมายจะอยู่ไกล เมื่อเทียบกับกล้องดูดาวแล้วต้องบอกเลยว่าชิดซ้ายไปเลย เพราะกล้องดูดาวนั้นมักไม่มาพร้อมเลนส์ตาแบบหมุนได้ จะเป็นเลนส์ตาคงที่ หลายคนอาจสงสัยว่าเลนส์ตานั้นทำหน้าที่อะไร เลนส์ตาทำหน้าที่บอกกำลังขยาย ยิ่งเลนส์ตาเล็กเท่าใหร่ กำลังขยายก็จะมากขึ้นแต่ภาพที่ได้ก็จะเล็กมากๆ เมื่อใช้เลนส์ตาใหญ่ๆ ภาพที่ได้ก็จะกว้างมองแล้วสบายตา รายละเอียดชัดเจนมากๆ แต่กำลังขยายที่ได้ก็จะน้อยตามไปด้วยนั่นเอง


รูปเลนส์ตาที่สามารถปรับซูมได้

ดังนั้นหากคุณต้องการกล้องดูนก และกล้องดูดาวไปพร้อมๆกันในการเลือกซื้อครั้งเดียว

เราแนะนำให้ซื้อกล้องดูนกที่สามารถเปลี่ยนเลนส์ในตัวได้ ที่มีขนาดเลนส์วัตถุ 100 มม. ขึ้นไป เพราะการมีกล้องดูนกที่สามารถเปลี่ยนเลนส์จากที่แถมมาในกล่องได้ คุณจะสามารถซื้อเลนส์กล้องดูดาวมาใส่เสริมได้ด้วย และยังมีอุปกรณ์เสริมที่สามารถขยายภาพของกล้องดูดาวได้อีกถึง5เท่า เพียงแค่กล้องดูนกตัวเดียวก็สามารถพกไปได้ทุกที่แล้ว เพียงแค่คุณเลือกกล้องเป็นครับ

แนะนำกล้องดูนก ที่ดูดาวได้เป็นอย่างดี

กล้องดูนก แบบแคสสิเกรน Celestron C90





เนื่องจากเป็นกล้องที่ระบบเลนส์ใหม่ที่สุดแล้ว ยังมีขนาดเล็ก พกพาสะดวก ใช้งานง่าย โฟกัสได้ไกล เหมาะสำหรับดูทั้งนกและดูดาวไปในตัว

เพราะเลนส์ตาของกล้องดูนกรุ่นนี้สามารถถอดเปลี่ยนได้ ในขนาดเลนส์ 1.25 นิ้ว สามารถใส่อุปกรณ์เสริมดูดาวได้ เช่น เลนส์ขยายดาว เลนส์ตาขนาดต่างๆก็สามารถเปลี่ยน หรือซื้อเพิ่มเติมได้

ไม่มีขาตั้งกล้องแถมในแพคเกจนะครับ ฉนั้นหากซื้อกล้องดูนกรุ่น Celestron C90 คุณก็ต้องมีขาตั้งกล้องที่บ้านไว้อยู่แล้ว หรือต้องซื้อเพิ่มครับ ซึ่งทางร้านแนะนำขาตั้งกล้องรุ่น Q333

กล้องดูนก Celestron C90 นี้เหมาะกับขาตั้งกล้อง Q333 เป็นอย่างมาก เพราะว่าการดูนกหรือดูดาวนั้นเราต้องการความนิ่งของภาพ ดังนั้นเราจึงต้องเลลือกขาตั้งกล้องแบบ 2 WAY ดังภาพ





ขาตั้งกล้องรุ่น Q333 สามารถรับน้ำหนักได้มาก ปรับเปลี่ยนมุมได้แม่นยำ แข็งแรง ทนทาน เหมาะกับกล้องดูนกรุ่น Celestron C90 จะทำให้คุณสามารถดูนก และดูดาวได้อย่างุใจมากยิ่งขึ้น อาจจะไม่ดีเท่าขาตั้งกล้องดูดาว แต่ก็สามารถใช้ทดแทนกันได้ดี และทั้งขนาดและน้ำหนัก ก็เบากว่าและเล็กกว่าขาตั้งกล้องดูดาวมาก ทำให้มีข้อดีเรื่องการพกพาติดตัวไปนั้นทำได้ง่ายกว่ามากครับ



รุ่นต่อมาที่จะแนะนำคือ กล้องดูนก Celestron Ultima 22-66x100A

รุ่นนี้ ใช้งานง่ายมากๆ ภาพชัด สีสด ดูนก หรือดวงจันทร์จะเห็นรายละเอียดได้ดีมากๆ แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีข้อเสียเลย เพราะกล้องรุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อให้มีกำลังขยายไม่เกิน 66 เท่า 



หากคลิ้กที่ภาพจะเข้ารายละเอียดสินค้า เมื่อเข้าไปดูแล้วจะทราบว่ากล้องรุ่นนี้มีขนาดค่อนข้างใหญ่ เพราะเลนส์ขนาดใหญ่กว่าและลำกล้องมีขนาดยาวกว่า กล้องดูนกรุ่น Celestron C90 ดังนั้นขาตั้งกล้องที่ควรใช้ก็ต้องเป็นขาตั้งกล้องที่รับน้ำหนักได้มาก เช่นขาตั้งกล้อง Q333

ติดตามFanpage : https://www.facebook.com/binocular.th